พาไปหาคำตอบสำหรับท่านที่ยังไม่ทราบว่าลมยางรถยนต์ รุ่นที่ใช้อยู่มีลมกี่ PSI สำหรับท่านที่ยังไม่รู้ว่า PSI คือหน่วยสำหรับอะไรก่อน
PSI ย่อมาจาก Pound per Square Inch หรือ ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
PSI เป็นหน่วยวัดความดัน ซึ่งหนึ่งปอนด์ต่อตารางนิ้ว หมายถึง ความดันซึ่งเป็นผลจากแรงหนึ่งแรงปอนด์กระทำต่อพื้นที่หนึ่งตารางนิ้ว มีค่าประมาณ 6,894.757 Pa ในระบบเอสไอ
หน่วย PSI เป็นหน่วยที่นิยมใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศอังกฤษ และในชีวิตประจำวันเราจะพบเห็นการใช้งานหน่วย PSI หรือ ปอนด์ต่อตารางนิ้ว มากที่สุดในการวัดวัดแรงดันของยางรถยนต์ ซึ่งรถยนต์แต่ละรุ่นจะถูกกำหนดให้ใช้ประเภทของยางและแรงดันที่เหมาะสมแตกต่างกันออกไป
หมายเหตุ แรงกดดัน 1 บรรยากาศ (แรงดันผิวโลก หรือ แรงดันที่ระดับน้ำทะเล) มีค่าเท่ากับ 14.7 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว (PSI)
ทำความรู้จักลมยางรถยนต์อ่อน-แข็ง ต่างกันอย่างไร มีผลมากน้อยกับการขับขี่
รู้หรือไม่ว่า การเติมลมยางรถยนต์ในปริมาณที่ไม่เหมาะสม เช่น อ่อนหรือแข็งจนเกินไปนั้น ย่อมส่งผลต่อการขับขี่ คือ หากเราเติมลมหรือใช้งานจนลมยางอ่อน จะสังเกตได้ว่ารถเริ่มกินน้ำมันมากขึ้น พวงมาลัยจะเริ่มหนัก มีความเสี่ยงที่ยางจะเกิดระเบิดได้ และยางจะสึกเร็วกว่าปกติ
หากเราเติมลมยางรถยนต์แข็งเกินไป แม้จะรู้สึกดีขึ้นในการออกตัว แต่ยางที่แข็งเกินไปจะให้ความรู้สึกกระด้าง ไม่นุ่มนวล การยึดเกาะทำได้ไม่ดี และตัวยางจะสึกหรอไม่เท่ากัน
ยางรถยนต์ควรมีลมยางแค่ไหนเหมาะสมที่สุด ?
รถยนต์ รถกระบะ หรือรถเอสยูวี ถึงแม้จะมี 4 ล้อเหมือนกัน แต่รูปแบบของยางรถยนต์ที่ใช้รวมถึงปริมาณลมยางนั้นมีความแตกต่างกัน ซึ่งสาเหตุที่ไม่เท่ากันเพราะรถแต่ละชนิดมีจุดประสงค์การใช้งานและน้ำหนักที่แตกต่างกันนั่นเอง
- รถยนต์ หรือรถเก๋งขนาดเล็ก ปริมาณลมยางที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 25-30 PSI
- รถยนต์ รถเก๋งขนาดกลาง และรถ SUV ปริมาณลมยางที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 30-35 PSI
- รถกระบะ ปริมาณลมยางที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 35-45 PSI (ขึ้นอยู่กับการใช้งาน เช่น บรรทุกของ)
- รถตู้ที่มีผู้โดยสาร ปริมาณลมยางที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 43-55 PSI
