รถแนวออฟโรด เลือกล้อเลือกยางขนาดเท่าไหร่ดี ถึงจะมองแล้วสวย
ช่วงนี้ฝนตกน้ำท่วมหนัก อาจจะเริ่มเห็นรถยนต์ยกสูงออกมาวิ่งกันเยอะกว่าปกติในช่วงเวลาแบบนี้ เพราะว่ารถเก๋งเล็กแต่งซิ่งโหลดต่ำ น่าจะเดินทางลำบากอย่างยิ่งเพราะปริมาณน้ำที่ท่วมสูงเกินข้อเท้าเสี่ยงอย่างยิ่งที่จะเกิดความเสียหายแก่รถยนต์
เข้าประเด็นกันเลยดีกว่าน่ะครับ สำหรับแนวทางการเลือกล้อ เลือกยางให้กับรถยนต์สไตล์ออฟโรดสำหรับใช้เดินทางในเมืองได้ ออกลุยได้นิดหน่อย
เนื่องจากรถยนต์แนวออฟโรด มีการยกสูงมา แต่ละคันอย่างต่ำก็ยกปรมาณ สองนิ้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกขนาดล้อและยางที่กว้างมาก
SIZE | LOAD INDEX | SPEED RATE | PR | LR | Letters | PRICE |
265/70R16 | 121/118 | Q | 10 | E | WHITE | 5,350 |
265/75R16 | 119/116 | Q | 8 | D | WHITE | 5,700 |
265/60R18 | 119/116 | Q | 10 | E | WHITE | 6,400 |
265/50R20 | 121/118 | Q | 10 | E | WHITE | 6,750 |
285/55R20 | 117/114 | Q | 8 | D | WHITE | 8,000 |
305/55R20 | 121/118 | Q | 10 | E | BLACK | 8,400 |
33×12.50R18 | 118 | Q | 10 | E | BLACK | 8,400 |
33×12.50R20 | 114 | Q | 10 | E | BLACK | 9,000 |
35×12.50R18 | 118 | Q | 8 | D | BLACK | 8,950 |
35×12.50R20 | 121 | Q | 10 | E | BLACK | 9,250 |
รถยนต์OFFROAD
1.รถออฟโรด Ford รุ่น Ranger Raptor X

สำหรับ Ford รุ่นนี้มีเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะแรงสูง ราคาไม่แรง Ford ซึ่งมีความโดดเด่นในเรื่องสมรรถนะเครื่องยนต์แรง พร้อมกับมีการออกแบบปรับให้ขับขี่ได้หลายโหมด เช่น โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมด Grass/Snow โหมด Mud/Sand โหมด Rock และโหมด Baja ซึ่งเป็นโหมดที่ออกแบบให้เหมาะกับการขับ Off Road โดยเฉพาะ
2.รถออฟโรด Jeep รุ่น Gladiator Sport

อีกรุ่นของ Jeep ที่ได้มีการเปิดตัวรุ่นใหม่อย่าง Gladiator ที่มีดีไซน์ที่หรูหราแต่คงยังสไตล์แบบ Off Road เอาไว้ และยังมาพร้อมกับ 4 ประตู ซึ่งเหมาะกับการขับรถวิบากเป็นอย่างยิ่ง เพราะตัวเครื่องนั้นได้ถูกออกแบบตามหลักพลศาสตร์ มีน้ำหนักเบา ทำให้ง่ายต่อการขับขี่ได้ทุกสถานการณ์
3.รถออฟโรด Ford รุ่น Ranger Fx4 Max

สำหรับ Ford Ranger Fx4 รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่ขึ้นชื่อช่วงล่างที่แน่น คล้าย ๆ กับรุ่น Raptor แต่รุ่นนี้จะอยู่ในราคาที่ถูกลงมา ซึ่งเหมาะกับสายออฟโรดมือใหม่ที่เพิ่งลองขับบนถนนวิบากในตอนแรก ๆ เพราะมีการออกแบบระบบมาให้ใช้งานง่ายในการขับขี่ทางลาดชัน โดยสามารถทำได้เพียงแค่กดปุ่มคำสั่งบนพวงมาลัยเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีการใช้โช้คที่เพิ่มความสามารถในการทำงานควบคู่กับระบบต่าง ๆ ด้วย
4.รถออฟโรด Toyota รุ่น Hilux Revo

รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ขึ้นชื่อในเรื่องของช่วงล่างของรถที่มีความนุ่มเป็นพิเศษ แม้จะขับบนพื้นผิวถนนที่ขรุขระ ตัวรถก็ยังสามารถทำหน้าที่ยึดเกาะถนนได้ดี และยังถูกออกแบบมาเพื่อรองรับแรงกระแทกในการขับออฟโรดได้ด้วย สไตล์ของรถมีการออกแบบเป็นสไตล์อเมริกันให้ทันสมัยมากขึ้น
5.รถออฟโรด Jeep รุ่น WRANGLER 4-Door Sport

สำหรับรุ่นนี้มาพร้อมกับกำลังแรงม้าที่เพิ่มขึ้น มีกำลังขับเคลื่อน 450 แรงม้า และยังเป็นรถยนต์ 4 ประตูที่เสริมดีไซน์ความสปอร์ตให้กับตัวรถ อีกทั้งยังสามารถขับลุยน้ำได้ดี เพราะตัวรถมีความสูงจากพื้น 10.3 นิ้ว เพิ่มความสามารถในการลุยน้ำได้สูงถึง 32.5 นิ้ว ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เหมาะกับสายรถออฟโรดตัวจริง
6.รถออฟโรด Nissan รุ่น Navara Pro-4X

Navara รุ่นนี้มาพร้อมกับดีไซน์โฉบเฉี่ยวอันโดดเด่น ซึ่งรุ่นนี้จะมีการออกแบบช่วงล่างพิเศษเพิ่มเติมด้วยยางแบบ All-Terrain จากแบรนด์ YOKOHAMA พร้อมกับมีการปรับแต่งช่วงล่างให้เหมาะกับการขับออฟโรดเป็นพิเศษกว่า Navara รุ่นทั่วไป เห็นได้ชัดเจนว่าตัวล้อช่วงล่างจะมีการยกสูงกว่าปกติด้วย
7.รถออฟโรด Mitsubishi รุ่น Pajero Sport

Pajero Sport ก็เป็นอีกรุ่นยอดฮิตที่มักจะเห็นบ่อย ๆ รุ่นนี้จะแตกต่างตรงที่ห้องโดยสารมีความกว้างพิเศษ นั่งสบายไม่อึดอัด เหมาะเป็นรถครอบครัว และยังสามารถขับลุยน้ำลุยบก หรือขับในเมืองปกติธรรมดาก็สามารถขับได้สบาย ๆ เอกลักษณ์ของรุ่นนี้ที่สะดุดตาก็คือ Advanced Dynamic Shield Design ที่ทำให้หลายคนจดจำ Pajero Sport ได้ดี
8.รถออฟโรด Isuzu รุ่น V-Cross 4×4

นอกจากจุดเด่นเรื่องประหยัดน้ำมันแล้ว Isuzu รุ่นนี้ยังมีฟีเจอร์พิเศษในเรื่องของระบบ Terrain Command ที่มีการพัฒนาขึ้นมาให้ใหม่ สามารถทำงานได้ฉับไว แม่นยำ และยังมี Electronic Diff-Lock ระบบล็อกเฟืองท้ายที่ควบคุมด้วยไฟฟ้า ทำให้เสริมความมั่นใจในการพิชิตเส้นทางยาก ๆ วิ่งได้ทุกเส้นทาง มาพร้อมกับสมรรถนะการลุยน้ำที่สามารถลุยสูงสุดได้ถึง 0.8 เมตรอีกด้วย
9.รถออฟโรด Ford รุ่น Ranger Wild Track

สำหรับ Concept ของ Ford รุ่นนี้มีภาพลักษณ์ที่สื่อถึง พร้อมลุยทุกสถานการณ์ เหมาะกับเป็นรถออฟโรดขาลุยที่ชื่นชอบการขับในระยะทางยาว ๆ รุ่นนี้ยังมีการปรับระบบส่งกำลังใหม่ที่สามารถขับได้นานถึง 150,000 กม. รูปลักษณ์ด้านหน้ามีการออกแบบดีไซน์ใหม่เป็นทรงสี่เหลี่ยมคางหมูตกแต่งตะแกรงสีดำเงาเล่นสีทอดยาวจรดกันชน พร้อมแต่งแถบสีส้มให้ดูทันสมัยขึ้น
10.รถออฟโรด Jeep รุ่น Renegade

Jeep รุ่นนี้ถือว่าเป็นรุ่นที่แตกต่างจาก Jeep รุ่นก่อน เพราะด้วยดีไซน์ที่มีการออกแบบให้ดูมีความ Modern บวกกับ City ในตัว แต่ยังคงฟังก์ชันการขับขี่แบบออฟโรดเอาไว้เช่นเดิม รูปร่างที่มีความโค้งมนทำให้รถออฟโรดดูเป็นเรื่องที่เข้าถึงง่ายขึ้นกับทุกคนมากขึ้น ทั้งยังมีความพิเศษตรงที่เป็นรถแบบไฮบริด สามารถเสียบปลั๊กชาร์จไฟได้และเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อได้